ตัวอย่าง 2 - ทดลองสร้างสวิทช์เปิดปิดและปรับความสว่างหลอดไฟผ่าน Blynk

ในการทดลองนี้ จะทำการสร้างสวิทช์เสมือนและแถบเลื่อนบน Blynk แอพพลิกเคชั่น เพื่อสั่งให้หลอดไฟที่อยู่บนอุปกรณ์ไมโครคอนโทรเลอร์ เปิด-ปิด และเปลี่ยนแปลงความสว่าง

อุปกรณ์ที่ใช้ในตัวอย่างนี้ประกอบด้วย

  1. Maker Playground Baseboard

  2. Maker Playground LED

ภายในซอฟต์แวร์เมกเกอร์เพลย์กราวน์

1. ภายใต้เมนู Device / Device Configuration ให้ทำการเลือก

  • Platform : Arduino (Atmel AVR)

  • Controller : Maker Playground Baseboard V3

ผู้ใช้งานจำเป็นต้องแก้ไขตัวเลือกทั้ง Platform และ Controller ให้ตรงกับอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานกำลังพัฒนางานร่วมด้วย

2. ภายใต้เมนู Device / Device Explorer ให้ทำการค้นหา Maker Playground LED และกดปุ่ม + เพื่อเพิ่มอุปกรณ์ไปยังรายการที่จะนำมาใช้งาน

3. ค้นหาและเพิ่ม Blynk Virtual Button

4. ค้นหาและเพิ่ม Blynk Virtual Slider

5. เมื่อผู้ใช้งานเพิ่ม Maker Playground LED, Blynk Virtual Button และ Blynk Virtual Slider ภายใต้เมนู Device / Device Configuration จะมีรายการอุปกรณ์ LED1, VirtualButton1, VirtualSlider1 เพิ่มเข้ามา

หากลองสังเกตุด้านข้างของแถบเมนู Device จากรูปภาพในข้อ 5 จะมีสัญลักษณ์เครื่องหมายตกใจสีเหลืองอยู่ด้านหน้า นั่นหมายถึงยังคงมีตัวเลือกที่ต้องการการตั้งค่าจากผู้ใช้ มิเช่นนั้น จะไม่สามารถอัพโหลดโปรแกรมไปยังบอร์ดไมโครคอนโทรเลอร์ได้

6. ผู้ใช้ต้องเลือก Port ให้กับ Maker Playground LED, Blynk Virtual Button และ Blynk Virtual Slider ที่เพิ่มเข้ามาใหม่ เมื่อทำการเลือก Port ให้กับอุปกรณ์เรียบร้อยแล้ว หน้าต่างจำลองการเชื่อมต่อวงจรทางด้านขวาจะวาดภาพการเชื่อมต่อสายระหว่าง Controller และ Sensor โดยอัติโนมัติ

โปรดตรวจสอบ virtual pin สำหรับอุปกรณ์ Blynk เสมอ หากต้องการใช้งานต่างหน้าที่ ไม่ควรมีเลข virtual pin ที่ซ้ำกัน

ภายในแอพพลิเคชั่น Blynk

7. เปิดแอพพลิเคชั่นบลิ๊ง และกดที่ปุ่ม New Project เพื่อทำการสร้าง Project ใหม่

8. ตั้งชื่อ Project ใหม่ โดยสามารถตั้งชื่ออะไรก็ได้ ในตัวเลือก Choose Device ให้เลือกอุปกรณ์เป็น ESP8266 และ Connection Type เป็น WiFi

เนื่องจากตัวอย่างการใช้งานนี้ใช้งาน Maker Playground Baseboard ที่ประกอบด้วย ESP8266 และใช้งาน ESP8266 เป็นตัวเชื่อมต่อกับโครงข่ายอินเตอร์เน็ต ผู้ใช้งานจำเป็นต้องเปลี่ยนตัวเลือกนี้หากอุปกรณ์ของผู้ใช้แตกต่างไปจากตัวอย่าง

9. เมื่อสร้าง project ใหม่สำเร็จ หน้าแดชบอร์ดของ Project จะปรากฏขึ้นดังรูป

10. ในหน้าแดชบอร์ดตามที่แสดงในข้อ 9 ให้ทำการจิ้มลงบนพื้นที่ตรงกลางหนึ่งครั้ง หรือจิ้มหน้าจอค้างไว้และเลื่อนไปทางซ้าย แถบ Widget Box จะปรากฏขึ้นจากทางด้านขวาของจอภาพ ทำการเพิ่ม Button และ Slider (หรือจะใช้งาน Virtical Slider ก็ได้เช่นกัน)

11. เมื่อ Button และ Slider ถูกเพิ่มเข้ามาในแดชบอร์ด จะได้อุปกรณ์ในลักษณะดังภาพ

ผู้ใช้งานสามารถจัดวางและปรับขนาดของอุปกรณ์ใน Blynk แอพพลิเคชั่นได้

12. จิ้มที่ตัวอุปกรณ์เพื่อทำการตั้งค่า ผู้ใช้งานสามารถเปลี่ยนชื่อของอุปกรณ์ได้ ในขั้นตอนนี้ควรตรวจสอบเลข Virtual pin ให้ตรงกับเลขที่ตั้งไว้ในซอฟต์แวร์เมกเกอร์เพลย์กราวน์ โดยในตัวอย่างนี้

การตั้งค่าสำหรับ Button

  • เปลี่ยน OUTPUT ของ Button เป็น Virtual pin 0

  • เปลี่ยน MODE ของ Button เป็น SWITCH

  • PUSH จะใช้งานเหมือนสวิทช์กดติด ปล่อยดับ

  • SWITCH จะใช้งานเหมือนสวิทช์ไฟทั่วไป กดหนึ่งครั้งเพื่อเปิด กดอีกหนึ่งครั้งเพื่อปิด

การตั้งค่าสำหรับ Slider

  • เปลี่ยน OUTPUT ของ Slider เป็น Virtual pin 1

  • เปลี่ยนช่วงค่าของ OUTPUT เป็น 0 ถึง 100

  • เปลี่ยน DECIMALS เป็น # ตัวเดียว เพื่อให้ใช้เลขจำนวนเต็มที่ไม่มีทศนิยม

13. เมื่อกดปุ่ม OK จากขั้นตอนก่อนหน้า หน้าแดชบอร์ดจะปรากฏอุปกรณ์ที่ตั้งค่าแล้วดังรูป

14. หน้าการตั้งค่า Project จะเปิดขึ้นมา ให้ผู้ใช้ทำการคัดลอก AUTH TOKEN key นี้ไปใส่ในช่อง Auth Token ในการตั้งค่าการทำงานของ Blynk ที่อยู่ในซอฟต์แวร์เมกเกอร์เพลย์กราวน์

ตัวอักษรเล็กและใหญ่ใน AUTH TOKEN key นั้นจำเป็นต้องกรอกให้เหมือนกับ AUTH TOKEN key ที่แสดงในหน้าการตั้งค่า Project ของแอพพลิเคชั่น Blynk ผู้ใช้งานควรใช้วิธีการกดปุ่ม E-Mail เพื่อทำการส่ง AUTH TOKEN key ผ่านทาง email เพื่อป้องกันการกรอกผิด

นอกจากนี้ผู้ใช้งานสามารถแก้ไขการตั้งค่าของ Project หากมีการตั้งค่าผิดพลาดในขั้นตอนการสร้าง Project

ภายในซอฟต์แวร์เมกเกอร์เพลย์กราวน์

15. ในหน้า Device / Device Configuration ของเมกเกอร์เพลย์กราวน์ซอฟต์แวร์ ให้นำ AUTH TOKEN key ที่ได้จากแอพพลิกเคชั่น Blynk มาใส่ให้ถูกต้อง จากนั้นกำหนดชื่อและรหัสผ่านของ WiFi ที่สามารถออกอินเตอร์เน็ตได้

WiFi นี้จะต้องอยู่บนเครือข่ายที่สามรถเชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตได้ทันที ไม่ผ่านการเข้ารหัสที่ต้องใช้บัญชีผู้ใช้หรือพร๊อกซี่ใดๆ และต้องเป็นการเข้ารหัสประเภท WEP, WPA2-PSK แบบ AES หรือ TKIP

หากผู้ใช้งานใช้อุปกรณ์ ESP8266 หรือ ESP32 โปรตรวจสอบให้มั่นใจว่า WiFi ที่ใช้เป็นคลื่นความถี่ 2.4GHz

16. ไปที่หน้าเมนู Diagram เพื่อทำการต่อบล็อกคำสั่ง

17. คลิกที่ปุ่ม Add Condition หรือทำการคลิกขวาที่หน้ากระดานแล้วไปที่ Add Condition เพื่อทำการสร้างบล็อกเงื่อนไข จำนวน 2 บล็อก และในแต่บล็อกให้เพิ่ม VirtualButton1 เข้าไปด้านใน

18. แก้ไข Condition ภายใน VirtualButton1 อันใดอันหนึ่งให้เป็น Not press

จะได้ผลดังรูปด้านล่าง

19. คลิกที่ปุ่ม Add Scene หรือทำการคลิกขวาที่หน้ากระดานแล้วไปที่ Add Scene เพื่อทำการสร้างบล็อกเงื่อนไข จำนวน 2 บล็อก และในแต่บล็อกให้เพิ่ม LED1 เข้าไปด้านใน

20. แก้ไขสถาณะของหลอดไฟ LED1 ในบล็อกซีนอันใดอันหนึ่งจาก ON ให้เป็น OFF

21. บล็อกซีนที่มีสถาณะของหลอดไฟ LED1 เป็น ON ให้แก้ไข Brightness ให้เป็นบล็อก value สีม่วง และตั้งค่าให้ใช้งาน VirtualSlider1's Value ดังรูป

22. เชื่อมต่อไดอะแกรมเข้าด้วยกัน และกดปุ่ม Upload โปรแกรมไปยังไมโครคอนโทรลเลอร์

23. หลังจากการอัพโหลดโปรแกรมเสร็จสิ้น กดปุ่มเล่นใน Blynk แอพพลิเคชั่น

24. ทดลองกด BUTTON และปรับค่า SLIDER จากนั้นลองสังเกตผลที่ได้

Last updated